1.จงฟังให้มาก
ตั้งแต่เราเด็กๆ แม้เราจะยังพูดจาไม่เป็นภาษาคน แต่พ่อแม่ก็ยังพยายามฟังและคอยตอบทุกคำถามให้ โดยไม่รำคาญ พ่อแม่ในวันนี้ก็ต้องการให้คุณทำเช่นเดียวกันแม้ท่านจะพูดแต่เรื่องอดีต
วนเวียนไปมา หรือคอยบอ กเล่าเรื่องราวที่คุณเห็น ว่าไม่ได้เกี่ยวกับตัวคุณสักนิด แต่จงฟัง แค่ตั้งใจฟังท่านแค่นี้ก็ทำให้ท่านรู้สึกว่า ท่านไม่ได้เป็นคนแก่ ที่น่ารำ ค า ญ แล้วล่ะ
2.ขออโหสิกรรม หากทำผิ ด
เมื่อไหร่ที่เราทำไม่ ดี กับพ่อแม่ ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ จิ ตใจของเราย่อมจะขุ่น มัวไม่สบายใจ มีแต่เรื่องนั้นอยู่ในหัว ส่งผลให้การงานที่ทำด้อย ประสิทธิภาพตามลงไป
หากคุณพลั้งเผลอทำไม่ ดี กับท่านและรู้สึกเช่นนี้ จงขอขมาคุณพ่อคุณแม่โดยบอ กกับท่านว่า สิ่งใดที่ทำไม่ ดี กับพ่อแม่
ทั้งทางกาย วาจา ใจ ลูกขออโหสิกรรม เมื่อท่านยกโทษให้ ความรู้สึกภายในใจของคุณก็จะโล่ง ผ่องใส และเบิกบานขึ้น มาได้
3.สร้างวันพิเศษ
ในขณะที่คุณออ กไปทำงาน พบปะเพื่อนฝูง เจอคน มากมายทั้งวันพ่อแม่ที่อยู่บ้าน ได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่คุณจะกลับ เป็นเช่นนี้ซ้ำๆเป็นกิจวัตรทุกวัน
ลองถามตัวเองว่า ถ้าคุณต้องอยู่กับบ้านเฉยๆและคอยเวลาลูกกลับจะรู้สึกยังไงฉะนั้น เพื่อช่วยให้ท่านไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและเ บื่ ວหน่ายกับชีวิตจนเกินไป
ลองกำหนดวันพิเศษขึ้น มา อย่างน้อยสักหนึ่งวัน ในแต่ละสัปดาห์พาท่านไปกินของอร่อย ไปในที่ที่ท่านชอบและรู้สึกผ่อนคลายหรือหากไม่มีเวลา ลองช่วยกันทำอาหาร หรือปลูกต้นไม้ในบ้าน เท่านี้ก็เป็นวันดีๆ ให้กับท่านได้แล้ว
4.จงกอดบ่อยๆ
คำพูดหนึ่งที่พ่อแม่มักพูดกัน ครั้งที่ลูกยังเป็นเด็ก คือให้รีบกอดลูกตั้งแต่ตอนนั้น เพราะหากโตขึ้นแล้ว อาจจะไม่ได้มีโอ กาสกอดลูกเลย นั่นเป็นเพราะเมื่อโตขึ้น
คนส่วนใหญ่รู้สึกเขินอายที่จะแสดงความรักกับบุพการี ทั้งที่เป็นสิ่งที่ท่านต้องการมากสุด และเป็นสิ่งที่ลูกทำได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้เงินสักบาท เชื่อเถอะว่า ไม่ว่าคุณจะเติบโต ไปมากเท่าไหร่ พ่อแม่ก็ยังต้องการอ้อมกอดจากลูกเสมอนั่นแหละ
5.เข้าใจธรรมชาติของพ่อแม่
เป็นความจริงที่ว่า ยิ่งพ่อแม่แก่มากขึ้น ท่านก็จะยิ่งทำตัวเป็นเด็ก มากเท่านั้นบางครั้งท่านจึงดูเหมือนคนเอาแต่ใจ พูดไม่ฟัง และนั่นคือธรรมชาติของพ่อแม่ก็เหมือนตอนที่คุณเป็นวัยรุ่น
ที่มักจะทำตัวติดเพื่อนเรียกร้องความสนใจ ทำอะไรไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ แต่พ่อแม่ก็ยังพยายามทำความเข้าใจและปรับตัวเข้าหาคุณตอนนี้คุณที่ต้องพยายามทำความเข้าใจท่านบ้างนะ
คุณแค่ต้องควบคุมอารมณ์หงุดหงิดโมโห พยายามตั้งสติเมื่อเห็นท่านทำอะไรที่คุณไม่ชอบจำเอาไว้ว่า อย่าเผลอใช้คำพูดทิ่มแ ท ง หัวใจท่าน
6.อย่ายัดเยียดความสุข
ไม่ผิดเลยที่ลูกจะอยากให้พ่อแม่มีความสุข ได้อยู่ในที่ดีๆ ได้กินอะไรดีๆและได้มีชีวิตดีๆ แต่คุณต้องไม่ลืมถามท่านทุกครั้ง ว่าท่านอยากจะมีชีวิตแบบที่คุณกำลังวาดไว้มั้ยเพราะบางครั้งท่านอาจไม่ได้มีความสุขกับชีวิตแบบนั้น
เช่น คุณอยากให้พ่อแม่ อยู่ในบ้านหลังใหญ่ ได้ไปเที่ยวเมืองนอ ก กินอาหารหรู แต่ความจริงแล้ว ท่านอาจจะไม่ชอบใช้ชีวิตแบบนั้นเพราะรู้สึกไม่เป็นตัวเองท่านอาจจะแค่อยากใช้ชีวิตเรียบๆ
ในบ้านเล็กๆอันแสนอบอุ่น ได้กินอาหารที่ลูกได้ทำให้ ชมดอ กไม้ ถ่ายรูปภูเขาในจังหวัดใกล้ๆโดยมีลูกหลานอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตานี่อาจจะเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ก็ได้นะ
