7 สัญญาณ ‘รักเริ่มขม’ ที่ควรระวัง

ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนที่ตัดสินใจคบหากัน ซึ่งหลายคู่ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆไปด้วยกัน และครองรักกันได้เนิ่นนาน

แต่ก็มีอีกหลายๆคู่ ที่ชีวิตรักไม่แข็งแรงพอ ก็จะยิ่งทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกไม่ดีต่อกัน มากขึ้น และจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอีก เมื่อมีสัญญาณบ่งบอกดังต่อไปนี้

1. คุณสำคัญไม่เท่า Application

สัญญาณบ่งบอกเริ่มต้น คือ การที่ฝ่ายชายมัวแต่สนใจสิ่งต่างๆรอบตัว มากกว่าการมีคุณอยู่ตรงหน้า

เช่น แม้จะนัดรับประทานอาหารค่ำด้วยกันในโอกาสพิเศษ แต่ฝ่ายชายกลับมัวสนใจกับแอปต่างๆบน มือถือ

เช็คหุ้นบ้าง เล่นเกมบ้าง ไม่สนใจใยดีคุณที่นั่งอยู่ด้วยแต่อย่างใด หรือถามคำก็ตอบคำ ไม่ให้ความสำคัญกับคำถามของคุณ

ข้อสำคัญ คุณจะต้องพิจารณาจากตัวเองก่อน ว่าคุณมองโลกในแง่ร้ า ยเกินไปหรือเปล่า หรือว่าเขาคนนั้น มีธุระเร่งด่วน

หรือมีความจำเป็นหรือไม่? ถ้าไม่ใช่ทุกครั้งที่เจอหน้ากันแล้วมีอาการแบบนี้ ก็แสดงว่าคุณเข้าข่ายคิดมากไปแล้วล่ะ

2. สิ่งที่เล่าสู่กันฟังหรือเรื่องขำขัน กลายเป็นเรื่องน่ารำคาญ

เมื่อคนเราได้รักใครสักคน การพูดคุยสื่อส า รแลกเปลี่ยนก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่เรื่องมุขตลก บางทีแม้มันไม่ขำ

แต่ก็มีอารมณ์ร่วมและหัวเราะมุขฝืดกันได้เสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รู้สึกว่าสิ่งที่แฟนตนเองเล่ามานั้นเป็นเรื่องน่ารำคาญ ก็เป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่ารักเรานั้นเก่าไปเสียแล้ว

ข้อสำคัญ ลองกลับไปมองในสิ่งที่พูดคุยกันในแต่ละวัน คุณเล่าปัญหาที่เครียดของคุณ หรือเล่าอะไรเดิมๆซ้ำๆ เป็นยายแก่ขี้บ่นหรือเปล่า

ซึ่งเขาอาจจะมีเรื่องที่เครียดมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ลองปรับเปลี่ยนทัศนคติการคุยกันใหม่ ลองพูดกันด้วยเรื่องดีๆมากขึ้น

ถ้าคุยเรื่องปัญหาเครียดก็ต้องร่วมกันคิดแก้ปัญหา ไม่โยนปัญหาให้คนใดคนหนึ่งรับผิดชอบ หรือลองเปลี่ยนสถานที่ๆใช้พูดคุยที่ไม่ใช่ที่บ้านดูค่ะ

ลองทำให้ต่างฝ่ายต่างสบายใจที่จะพูดคุยกัน มากขึ้น แต่ถ้าลองทำแล้ว ก็ยังกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญเหมือนเดิมอยู่ ก็ควรจะเปิดอกคุยกันถึงเรื่องความรู้สึกไปเลยค่ะ

3. คุณเริ่มทำตัวเป็นนักสืบ

เมื่อรักเริ่มมีอาการแปลกๆ ส่อแววว่าอาจจะมีรักซ้อนซ่อนเงื่อน และคุณต้องลงมือหาหลักฐาน มายืนยันความคิดของตัวเอง

รับรองว่ามันไม่สนุกเหมือนอ่านนิยายสืบสวนแน่ๆ คงไม่มีผ ญ.คนไหนที่ค้นกระเป๋าสตางค์ เช็คโทรศัพท์มือถือ ล็อกอินเข้าอีเมล เฟซบุ๊ก ฯลฯ เพราะเธอเชื่อว่าเขาซื่อสัตย์แน่นอน

ข้อสำคัญ เหตุการณ์ที่เขาเคยไปมีคนอื่นเคยเกิดขึ้นหรือไม่? คุณต้องคิดด้วยว่าคุณเข้าข่ายคิดมากหรือเปล่า หรือมีแนวโน้มอะไร

เช่น เขากลับบ้านดึกทุกวัน หรือไปไหนไม่บอกกล่าว คุณก็ต้องคิดประกอบเหตุผลให้มากๆ เพราะถ้าไม่มีอะไรจริงๆ เรื่องนี้จะจุดชนวนให้คุณกับเขาทะ เลาะกัน

4. เขาไม่อยากมีอะไรกับคุณ

ถ้าหากคุณเป็นคู่สามีภรรยาที่มองข้ามกิจกรรมเหล่านี้ร่วมกันเป็นเวลานานๆ ก็อาจเกิดเรื่องผิดใจขึ้นได้ เพราะเ ซ็ กส์เป็นความต้องการพื้นฐาน

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ คนที่แต่งงานกันย่อมรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายดีที่สุดอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่สนใจชวนคุณมีเ ซ็ กส์อีกเลย ทั้งๆที่ปกติก็ควรจะมีบ้าง ก็เป็นไปได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

ข้อสำคัญ เรื่องเ ซ็ กส์ใครว่าไม่สำคัญ คุณต้องสังเกตว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า เขาไม่อยากมีเพราะอะไร อาจจะเป็นเรื่องความผิดปกติขณะมีเ ซ็ กซ์

เช่น อาการเจ็บ การหดตัว หรืออาจจะเ บื่ อท่วงทาเดิมๆ ฯลฯ เปิดใจคุยกันตรงๆไปเลยค่ะ ไม่ต้องอาย

ลองพากันไปเที่ยวเหมือนตอนฮันนีมูน หรือถ้ามีปัญหาทางกายภาพก็ลองปรึกษาแพทย์เฉพาะทางค่ะ

5. ทะ เลาะกันสาดเสียเทเสีย

สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันอย่างเข้าใจ แม้จะมีปัญหาให้ถกเถียงกันบ้าง พวกเขาก็พร้อมจะกลับมาคืนดีกันในเวลาไม่นาน

แต่ถ้าคุณสองคนยามทะ เลาะกัน มักจะใช้คำพูดรุนแรง หวังให้คำพูดเหล่านั้นทำร้ า ยจิ ตใจอีกฝ่ายให้เจ็บแสบ อีกทั้งยังไม่ให้เกียรติกัน

เช่น มีการทำร้ า ยร่างกาย ตบตี ขว้างปาข้าวของ ทำให้อีกฝ่ายเสียหน้าต่อธารกำนัล เหล่านี้ก็เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้ไม่แข็งแรงอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว

ข้อสำคัญ คุณลองระงับอารมณ์ และตกลงคุยปัญหากันดีๆ ถึงอาจจะต้องถกเถียงกันบ้าง ก็ไม่จะเป็นจะต้องใช้คำหย าบคายหรืออารมณ์รุนแรง

อย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง แต่ถ้าเขาถึงขั้นว่าลงไม้ลงมือทำร้ า ยร่างกายคุณ ก็อย่าเลยค่ะ ออกห่างไว้ดีกว่า

6. เมื่อเขามีกิจกรรมสนุกสุดเหวี่ยง แต่ห้ามคุณยุ่งเกี่ยว

คนสองคนที่มาแต่งงานอยู่ร่วมกัน อาจไม่จำเป็นต้องชอบสิ่งเดียวกัน หรือไปไหนไปด้วยกันตลอด แต่ถ้าวันหนึ่งวันใด

ผ ช.ของคุณเริ่มมีกิจกรรมสุดโปรดแบบที่เขาพร้อมจะห ม กมุ่นอยู่กับมัน มากกว่าจะมีเวลาให้คุณ แถมกิจกรรมตัวนี้เขาสามารถทำเองได้

โดยที่คุณไม่ต้องข้องเกี่ยว อีกทั้งไม่เคยเล่าให้ฟัง(อาจจะเคยเล่าแต่รู้สึกว่าถึงเล่าไปคุณก็ไม่สนใจฟัง หรือมองเป็นเรื่องไร้ส า ระ) ก็เป็นไปได้ว่า ความสำคัญของคุณต่อชีวิตของเขาอาจลดน้อยลง

ข้อสำคัญ คุณต้องลองชวนพูดคุยถึงสิ่งที่เขาทำก่อน พูดคุยให้สนุกสนาน(ไม่เอาแบบสืบสวนว่าไปกับใคร ทำอะไร ที่ไหน)

เขาอาจจะอยากพูดคุยเล่าให้คุณฟังมากขึ้น หรือถ้าเขาเห็นว่าคุณเปิดใจรับฟังเขา เป็นไปได้

เขาอาจจะพาคุณไปร่วมกิจกรรมนั้นๆด้วยก็ได้ หรือถ้าทำทุกวิถีทางแล้ว ก็คงจะต้องกลายเป็นปัญหาแบบข้อ 2

7. ไม่เคยคุยเรื่องอนาคตร่วมกัน

ทุกคู่สามีภรรยาคงต้องวางแผนอนาคตร่วมกัน และนั่นย่อมทำให้เกิดความรู้สึกดีๆกับชีวิตคู่ และรู้สึกมั่นคงมากขึ้น

แต่คู่ที่ไม่เคยคุยถึงเรื่องดังกล่าวนี้ร่วมกันเลย นั่นน่าจะห ม ายถึงความสัมพันธ์ที่มีปัญหาบางอย่าง

ข้อสำคัญ อาจเพราะเหตุการณ์ดังที่กล่าวมา หรือเป็นเพราะว่าคุยกันน้อยเกินไป ทั้งเรื่องการวางแผนอนาคต

และทุกๆเรื่อง การพูดคุยอย่างเปิดใจ ทำให้เขาและเราร่วมแสดงความคิดเห็นกันทั้งสองฝ่าย ทำให้เข้าใจกัน มากขึ้น และได้มองชีวิตรักใน มุมใหม่ๆด้วยนะคะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *