”เราเลิกกันเถอะ” คู่รัก บางคู่ อาจเอ่ยคำนี้ ออกมานับร้อย ครั้งแต่ครั้งไหนบ้างที่เธอหมายความ ตามที่พูดจริงๆ !?
จากครั้งแรกที่อาจไม่คิดอะไรเมื่อต้องเจอกับเรื่อง ทะ เลาะตะโпนด่ าทอ ไม่เข้าใจกันทัศนคติเข้ากัน
ไม่ได้ซ้ำซากก็เริ่มเกิดรอยร้า วสัญญาณต่าง ๆ ในชีวิตคู่ทำให้เห็น ชัดเจนว่าเธอและเขาไปกันไ ม่รอดและต้อง
ถึงวัน ‘เลิกรา’ อย่ างแน่นอน เออท้านักเลิกจริง ๆ เลยแล้วกัน มีเหตุผลมากมาย ที่คนสองคนจะเลิกกัน
1.ห งุ ด ห งิ ดแฟน แม้ในเรื่องเล็กๆ น้อย ๆ
เมื่อก่อนแฟนทำอะไรก็ดู ‘ดีงาม’ ไปซะหมด ท่วงท่าในการเดิน การเขียนหนังสือการขยับนิ้วมือไป มาของเขา
แค่เห็น ก็ทร มานใจสุด ๆ อะไร จะหล่ อจะเท่ข นาดนี้ แต่ปัจจุบัน…แค่ได้ยินเสียงลมหายใจ ฟืดฟาดของเขา
ก็ห งุ ด ห งิ ดได้อีกไป ให้พ้ นๆ สายตาได้ไหมไม่สิไปให้พ้นจากชีวิตน่าจะดีกว่า (แฟนได้ยินรีบไปผูกคอ ใต้ต้นถั่วงอกรัว ๆ )
แค่เขาเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ธอก็แทบจะสะอิดสะเอียน ผดผื่นคันจนต้องบอกให้เขา ‘ไปให้ไกลๆ’เป็นไปได้ว่า
เธอไม่รู้สึกว่าเขา ‘มีเส น่ห์’อีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นสิ่งน่ารำ คาญ อย่ างหนึ่งและนี่แหละ จะนำไปสู่ การเลิกรา
2.คุยเมื่อไหร่ทะ เลาะทุกที
เมื่อก่อนน่ะเหรอ เธออย ากอยู่ กับแฟน ‘ตลอดเวลา’ 24 ชั่ ว โ มงยังไง ก็ไอเลิฟยูขอตามติดไปทั่วทุกที่คุยกันได้ทุกเรื่องคุยจนหลับแล้วตื่นขึ้น
มาคุยอีก ก็ไม่เบื่อขอให้ได้ อยู่ด้วยกัน ก็พอแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรจะคุยด้วย สักนิดไม่อย ากเล่าอะไร ให้ฟังทั้งนั้น
แค่ขยับปากยั งขี้เกียจเลยพอเขาอย ากคุยเธอ ก็เริ่มห งุ ด ห งิ ด ถ้าไม่ทำเงียบ ๆ ก็หาเรื่องพูด ให้เขาอารมณ์เสีย
ในที่สุดก็ทะ เลาะ กันจนได้ ถ้าเหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นซ้ำ ๆแปลว่าเธอไม่อย ากมีเขาอยู่ ในความสัม พันธ์แล้ว เตรียมรอวันเลิกได้เลย
3.เถียงกันจากเรื่องเล็ก ๆ จนบานปลาย
มันอาจจะเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ เช่น‘ วันนี้ใ ครจะล้างจาน’,‘ วันนี้ใคร จะจ่ายค่าไอติม’ แต่ไม่มีใครยอ มอีกฝ่ายจนบานปลาย ทะ เลาะกันใหญ่
โตลามไปถึง ลักษณะนิสัยพฤติ ก ร ร ม ไม่ดีที่ผ่าน มาตั้งแต่ชาติ ที่แล้วแล้วสรุป ด้วยคำว่า‘ เป็นอย่ างนี้ ไงถึงอย ากเลิก’ บางคู่
อาจเก็บอารมณ์ถ้าอยู่นอกสถานที่ แต่พออยู่ในบ้านเท่านั้นแหละ ใส่ไม่ยั้ง ทั้งตะโпน กรีดร้องเขวี้ยงปาข้าว
ของร้องไห้เสียงดังจนข้างบ้าน คิดว่ามีการ ฆ า ต ก ร ร ม ต อนนี้ การทะ เลาะห่างจากประเด็นหลักไปไกลแล้ว
ถ้าอย ากให้จบเธอ ต้องเลือกระหว่าง ‘ขอโ ทษ หรือ ‘ทำเงียบแล้ว ปล่ อยไป’แต่ถ้าอย ากเลิกก็ทำตรงกัน ข้ามเท่านั้นเอง
4.ใช้เวลาห่างกัน มากขึ้นเรื่อยๆ
จากที่เคยตัวติดกัน เป็นตังเม ก็เริ่มมีปัญหา ชีวิต/ภาระหน้าที่/วิถีชีวิต ไม่ตรงกัน ทำให้ใช้เวลา ห่างกันบ่อยขึ้นเรื่อย ๆนที่จริงห่างกันบ้าง
เป็นเรื่องดีเพราะทำให้ แต่ละฝ่ายได้ ใช้ชีวิตของตัวเอง เว้นระยะให้คิดถึงกันบ้าง
แต่ถ้าในใจ ของเธอกลับ ไม่อย ากเห็น อย ากคุยกับ แฟนติดต่อกันนาน ๆ เป็นไปได้ว่าเธอสบายใจกว่าถ้าเขาไม่มายุ่ง
กับเธอค่ะ วิธีสังเกตตัวเอง ง่ายๆ คือถ้าเธอรู้สึกว่า การนัดเจอนัดเดท กับแฟนเป็น ‘หน้าที่’
ที่ต้องทำไม่ใช่สิ่งที่ทำ ตามความรู้สึก หรือหัวใจแปล ว่าเธอกำลังเบื่อ และอาจไป หาคนใหม่ที่ตื่นเต้นกว่าได้ทุกเมื่อ
ถ้ายังไม่อย ากปล่ อย มือแฟนก็ต้องจับเข่าคุยกันแล้วล่ะ ว่าสาเหตุที่ทำให้เธอเบื่อ คืออะไร แล้วแก้ไขมันซะ
5.อยู่ห่างแฟนแล้ว รู้สึกสบายใจกว่า
เธอเริ่มมีความรู้สึกว่า เธอต้องใส่ ‘หน้ากา ก’ ยิ้มแย้มสดใส ร่าเริงตลอด เวลาที่อยู่กับแฟนเพราะ ต้องคอยซ่อนความรู้สึกจริง ๆ
เอาไว้นั่นเอง เธอไม่อย ากทะ เลาะ มีเรื่องหรือ ปิดบังความลับ บางอย่ างไว้อันที่จริงอยู่ กับคนแปลกหน้า
อาจสบายใจ กว่าด้วยซ้ำ จำไว้ว่า อย ากมีเวลาส่วนตัวกับเพื่อนกับอย ากอยู่เป็นโสดนั้น ต่างกันคนเรา
ต้องมีระยะห่าง บ้างเป็น เรื่องปกติแต่ในที่สุด ก็กลับมาหาแฟน แต่ถ้าอย ากอยู่เป็นโสด คือเธอไม่มีเขาในหัวใจ
อีกแล้วอย ากตัดขาด ว่าอย่ างนั้นเถอ ะถ้าเริ่มอึ ด อั ดกับ สภาพที่เป็นอยู่แปลว่า เธอไม่อย ากใช้สถานะ‘แฟน’กับเขาแล้วล่ะค่ะ
6.คิดถึงแต่ด้านลบ ของแฟนวลา ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
แทนที่จะคิดถึงอย ากให้เขามาอยู่ด้วย ตอนที่ห่างกันเ ธอกลับคิดถึง มุมแ ย่ ๆ แง่ร้ า ยแง่ลบสิ่งน่ารำ คาญทุกเรื่อง ที่แฟนหนุ่ม
ทำถ้าเวลาเดียว ที่เธอเลิกคิดเ รื่องแ ย่ ๆ คือตอนเขา เอาใจเธอ แปลว่าเธอเห็นค่าของแฟน แค่ตอนที่
เขาทำดีกับเธอแค่นั้นเองมีคำหนึ่งกล่าวว่า ‘ถ้าเธออย าก รู้ว่าหัวใจตัวเอง อยู่ที่ไหน คนแรกที่เธอนึกถึงก็คนนั้นแหละ’
และถ้าในห้วงคำนึงนั้นไม่มีแฟน หนุ่มของตัวเองอยู่เลย ไม่ว่าจะรู้ตัว หรือไม่เธอ ไม่ได้รักเขาอีก ต่อไปแล้วล่ะค่ะ
7.เธอเอาแต่คิดว่า “ถ้าฉันโสด จะเป็นยังไง”
“ถ้าฉันโสดจะเป็นยังไง ฉันจะเรียนได้เกรดดี มากขึ้น ไหมทำงานแล้ว ได้เลื่อนขั้นสูง ขึ้นหรือเปล่าหรืออาจจะมีเวลาทำงาน
อดิเรกที่ชอบมากขึ้น อืม…แล้วถ้าฉันเปลี่ยน แฟนล่ะ จะมีความสุขมากขึ้น หรือเปล่านะ” ถ้าเธอ มีความคิดแบบนี้
วนเวียนในสมอง จากนาน ๆทีกลับบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ แปลว่าเธออย ากมีชีวิตใหม่ และแน่นอนไม่มี แฟนของเธอ รวมอยู่ใน นั้นด้วยอีกต่อไปแล้ว
8.เริ่มวิพากษ์วิ จารณ์หา ข้อเสียของแฟน มากขึ้นเรื่อย ๆ
เจอแฟนทีไรขอให้ได้ บ่นว่าขุดคุ้ย วิพากษ์วิ จารณ์ ข้อเสียต่าง ๆ นานา ‘เธอน่าจะทำได้ดี กว่านี้’, ‘ทำไมหาเงินได้แค่นี้เองล่ะ’
อย ากให้เขาหล่ อขึ้น มีชื่อเสียงมากขึ้น รวยขึ้น มี ความคิดมากขึ้น เพราะตอนนี้ มองยังไงก็ไม่ได้ดั่งใจ
เธอสักอย่ างมาตรฐานต่ำกว่า เกณฑ์สุด ๆ ถ้าเธอเป็นแบบนี้ แปลว่าเธอไม่ได้ มองเขาในฐานะ ‘คนรัก’แล้วแต่มองในฐานะ
‘สินค้าที่ต้องปรับปรุง’ ผช.ที่โ ดนพูด กรอกหูว่าตัวเอง ต่ำต้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่านานวันความอดทน ก็จะหมดลงเขาจะ เริ่มไม่พอใจ
และหัน มาวิ จารณ์ เธอบ้างในที่สุด ก็ทะ เลาะและเลิกราค่ะ
9.เธอกับแฟนไม่รู้สึกสนิทกันอีก ต่อไปแล้ว
เมื่อแรกคบก็ตัวติดกันตลอดปล่ อย มือกันเกินสองนาที ไม่ได้ต้องจับมือกันเ ดินไปนั่นนี่ตลอดแต่ตอนนี้อย่ ามาจับนะร้อน
เปื้อนเหงื่อ สำหรับคู่แต่งงาน ก็ละเลยเรื่อง บนเตียงไปโดย ปริย าย เพราะรู้สึกกระดาก และแปลก ๆ ที่ต้องมาสัมผัสร่างกายกัน
ก็แค่ห อ มแก้มпอดยัง ไม่อย ากทำเลยนี่นาอาการแบบนี้อธิบายได้ สั้นๆว่า “ไม่รู้สึกสนิทสน ม ด้วยแล้ว”ไม่มี อารมณ์จะทำอะไร
น่ารักมุ้งมิ้งด้วยกัน อีกต่อไปแค่จะยื่น มือไปสัมผัส ก็รัง เกียจ ถ้าเธอกำลังเจอเหตุการณ์นี้ รีบหาต้นตอ และแก้ไขโดย ด่วนก่อนจะสายเกินไปค่ะ!
10.เริ่มคิดถึง‘การเลิกรา’ (หรืออาจวางแผนจะเลิกแล้ว)
‘ห่างกันสักพัก’อาจช่วยให้ความสัม พันธ์ที่คลอนแคลนดีขึ้นเพราะได้เวลากลับไปคิดทบทวนสิ่งที่ผ่าน มาและอาจกลับมาเข้าใจกัน
อีกครั้งแต่มัน ก็คือดาบสอง คมถ้าไม่กลับมา คืนดีแล้ว รักกัน มากกว่าเดิม ก็เลิกกันไปเลย ซึ่งคู่รักหลายคู่ ก็ใช้เหตุผลนี้
เป็นการบอกเลิก อย่ างเนียน ๆนั่นแหละค่ะลองสังเกตตัวเอง ว่าเมื่อใช้สถานะ ‘ห่าง’ กับแฟนแล้ว รู้สึกมีความสุขเป็นอิสระ มากขึ้นไหม
ถ้าใช่ก็ส่อสัญญาณกลาย ๆ ว่าต่อไป ต้องเลิกกันแน่นอน
11.ขุดความผิดของแฟน มาพูดซ้ำ ๆ ในการทะ เลาะทุกครั้ง
นี่ถือเป็นนิสัยที่ไม่ดีเลย!เวลาทะ เลาะต้ องคอยขุดความผิด ของแฟน มา พูดซ้ำซากบางอย่ างจบไปตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอ มลืม
ขอให้ได้พูดได้ เถียงแล้วชนะ เธอก็สะใจ แล้วแต่ไม่สนใจ ความรู้สึกของฝ่ายตรงข้าม แม้แต่นิดเดียว เธออาจรู้สึกดี
แต่ฝ่ายตรงข้าม จะถูกย้ำเตื อ นเสมอว่าไม่ว่าจะขอโ ทษ ในความผิดที่ทำสักแค่ไหน เธอก็ไม่เคยให้ อภัยเขาเลย แสดงถึง
นิสัยยึดติดและอา ฆ า ต ม า ด ร้ า ยแน่ล่ะ ไม่มีใครชอบผญ. แบบนี้หรอก…จุดจบไปสู่ การเลิกราก็ตาม มาโดยไม่ต้องสงสัย
12.เธอให้อภัยความผิด ของแฟนไม่ได้
ต่อจากข้อข้างบนเธอไม่ยอ ม และไม่มีวันให้ อภัยความผิด ของแฟนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
แค่เขาลืมล้างจานลืมซักผ้า เธอก็โกรธเป็น ฟืนเป็นไฟ เช่นบังคับเธอ ให้ออกจากงาน, ตะคอกใส่เธอเสียงดัง ด้วยคำพูดหย าบคาย,ทำให้เธออับอาย ต่อหน้าสาธารณชน
นึกขึ้น มา เมื่อไหร่ ก็รับไม่ได้ทุกทีแล้ว เธอจะแบกความทรงจำเหล่านี้ ไปตลอดชีวิตงั้นหรือจะมานั่งทบทวน แล้วหาทางออกร่วมกัน
หรือจะแยกทางใคร ทางมันเธอเป็นคนตัดสินใจเองค่ะ
คู่รักที่กำลังอยู่ ในสถานะ‘ห่าง’ ต้องมีสัญญาณบ่งบอกเ หมือนในบทความนี้บ้างไม่มากก็น้อยเรามั่นใจ! เพราะแต่ละอาการ เป็นความรู้สึกที่สื่อ ให้เห็นชัดเจนว่า‘
เธอไม่รักเขาอีกต่อไปแล้ว’โดยแสดง ออกมาผ่านพฤติ ก ร ร มต่าง ๆ เช่น ไม่เห็นอยู่ ในสายตา,มองเห็นแต่ข้อเสีย,วิพากษ์วิ จารณ์จนเขา เสียความรู้สึก,แค่เห็นหน้า ก็ห งุ ด ห งิ ด เป็นต้นถ้าเธอ เจอสัญญาณเหล่านี้แล้ว
มีทางเลือกสองทางคือ กลับมาทบทวน ความสัม พันธ์ หรือปล่ อย ให้หลุดมือไปเลยทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าเธอแ ค่อิ่มตัวกับ ความรักหรือ เขา ‘ไม่ใช่’ อีกต่อไป